top of page
สมุนไพรไทย - สมุนไพรมีดี
สมุนไพรไทย ที่สุดแห่งภูมิปัญญาที่ได้รับสืบทอดต่อกันมาจากอดีตถึงปัจจุบัน ให้เราได้พัฒนา ศึกษาสรรพคุณ เพื่อปรับใช้ให้เหมาะสมกับยุคสมัย มาเรียนรู้เคล็ดไม่ลับ สุขภาพดีของบรรพบุรุษกับ - สมุนไพรมีดี -
สมุนไพรใกล้ตัว/สรรพคุณ
ความรู้พื้นบ้าน
สรรพคุณสมุนไพร
แบ่งตามกลุ่มอาการ
กลุ่มยาถ่ายพยาธิ
มะขาม
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tamarindus indica L.
ชื่อสามัญ : Tamarind
วงศ์ : Leguminosae - Caesalpinioideae
ชื่ออื่น : ขาม (ภาคใต้) ตะลูบ(ชาวบน-นครราชสีมา) ม่องโคล้ง (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) อำเปียล (เขมร-สุรินทร์) หมากแกง (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน) ส่ามอเกล (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ไม้ต้นขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่แตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นขรุขระและหนา สีน้ำตาลอ่อน ใบ เป็นใบประกอบ ใบเล็กออกตามกิ่งก้านใบเป็นคู่ ใบย่อยเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบและโคนใบมน ดอก ออกเป็นช่อเล็กๆ ตามปลายกิ่ง หนึ่งช่อมี 10-15 ดอก ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีเหลืองและมีจุดประสีแดงอยู่กลางดอก ผล เป็นฝักยาว รูปร่างยาวหรือโค้ง ยาว 3-20 ซม. ฝักอ่อนมีเปลือกสีเขียวอมเทา สีน้ำตาลเกรียม เนื้อในติดกับเปลือก เมื่อแก่ฝักเปลี่ยนเป็นเปลือกแข็งกรอบหักง่าย สีน้ำตาล เนื้อในกลายเป็นสีน้ำตาลหุ้มเมล็ด เนื้อมีรสเปรี้ยว และหวาน
ส่วนที่ใช้ :
-
เมล็ดในที่กะเทาะเปลือกออกแล้ว (ต้องคั่วก่อน จึงกะเทาะเปลือกออก)
-
เนื้อหุ้มเมล็ด
สรรพคุณ :
-
เมล็ด - สำหรับการถ่ายพยาธิตัวกลม พยาธิเส้นด้าย
-
ใบ - ขับเสมหะ
-
แก่น - ขับโลหิต
-
เนื้อ - เป็นยาระบาย ขับเสมหะ แก้ไอ
วิธีและปริมาณที่ใช้ :
-
ถ่ายพยาธิ
ใช้เมล็ดในที่มีสีขาว 20-25 เมล็ดต้มกับน้ำใส่เกลือเล็กน้อย รับประทานเนื้อทั้งหมด 1 ครั้ง หรือคั่วให้เนื้อในเหลือง กะเทาะเปลือก แช่น้ำให้นิ่ม เคี้ยวรับประทานเช่นถั่ว -
แก้ท้องผูก
ใช้เนื้อหุ้มเมล็ดคลุกเกลือรับประทาน ระบายท้อง -
แก้ไอ, ขับเสมหะ
ใช้เนื้อในฝักแก่หรือมะขามเปียก จิ้มเกลือรับประทาน
สารเคมี :
- เนื้อในหุ้มเปลือก มี tartaric acid 8-18% invert sugar 30-40%
- เมล็ด มี albuminold 14-20% carbohydrate 59-65% semi-drying fixed oil 3.9-20% mucilaginous materal 60%
อ้างอิงจาก : http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/index.html
bottom of page